วันจันทร์ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2554
Promenada Resort Mall Chiang Mai
อีซีซี กรุ๊ป ทุ่ม 2,800 ล. เปิด พรอมเมนาดา รีสอร์ท มอลล์ เชียงใหม่
อีซีซี กรุ๊ป ทุ่ม 2,800 ล้าน เปิด พรอมเมนาดา รีสอร์ท มอลล์ เชียงใหม่ คาด เปิดตัว “รีสอร์ท มอลล์ครั้งแรกในไทย” ภายในครึ่งปีแรก 2554
นายเชียร์ท ควันท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่ม อีซีซี กรุ๊ปผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำระดับโลกและรีสอร์ทมอลล์ครั้งแรกในไทย เปิดเผยถึงความคืบหน้าของโครงการพรอมเมนาดา รีสอร์ทมอลล์ เชียงใหม่ เพิ่งได้ทำพิธีวางศิลาฤกษ์บริเวณพื้นที่โครงการฯ พร้อมลงนามในสัญญาเป็นหุ้นส่วนร่วมกับ ดร. วัชระ ตันตรานนท์ จาก วี กรุ๊ป ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของเชียงใหม่เมื่อเร็วๆ นี้
“การที่เรามีโอกาสได้ร่วมกับวีกรุ๊ป เชียงใหม่ในครั้งนี้ จะทำให้เราสามารถสร้างประสบการณ์ในการช้อปปิ้งที่แตกต่างและสุดพิเศษ ในแบบที่เราต้องการจะเห็นจากโครงการ พรอมเมนาดา รีสอร์ทมอลล์ เชียงใหม่” นายเชียร์ทกล่าว “อีซีซี อินเตอร์เนชั่นแนล เรียลเอสเตท มีความชำนาญในด้านการพัฒนาโครงการช้อปปิ้งมอลล์ในระดับโลก เป็นที่ยอมรับในความสำเร็จมาตลอดระยะเวลา 20 ปี เมื่อมาลงทุนในไทยก็สรรหาพันธมิตรที่จะมีความรู้ความเข้าใจและมีความแข็ง แกร่งในตลาด เพื่อจะสามารถส่งเสริมกันและกันได้อย่างลงตัว ซึ่งเป็นที่น่ายินดีอย่างยิ่งที่ได้ วีกรุ๊ป เชียงใหม่เป็นพันธมิตร”
ด้วยองค์ประกอบที่ลงตัว ก่อเกิดเป็นศูนย์การค้าสไตล์รีสอร์ทมอลล์ครั้งแรกของประเทศไทย “พรอมเมนาดา รีสอร์ทมอลล์ เชียงใหม่” ที่ผสานช้อปปิ้งมอลล์แบบเปิดสไตล์รีสอร์ทเข้ากับอาคารช้อปปิ้งแบบปิด ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 58 ไร่ ด้วยเงินลงทุนกว่า 2,800 ล้านบาท บนถนนเชียงใหม่-สันกำแพงสายใหม่ เชื่อมระหว่างซูเปอร์ไฮเวย์กับวงแหวนรอบกลาง “บริเวณนี้ถือเป็นแหล่งที่เติบโตเร็วมากที่สุดแห่งหนึ่งในเชียงใหม่และมีศักยภาพในการเติบโตต่อไปอีกมากเพราะมีการขยายตัวทั้งในด้านธุรกิจและในแง่ที่พักอาศัย เป็นศูนย์กลางของการขยายตัวของเมืองใหม่ สำหรับขณะนี้ มีโครงการที่พักอาศัยเกิดใหม่กว่า 80 โครงการ มีผู้ที่มีกำลังซื้อทั้งคนไทยและต่างชาติที่มีรายได้ระดับกลาง-บน กว่า 11,000 ครัวเรือน นอกจากจะไปมาสะดวกทั้งจากในเมืองและสนามบินแล้ว ยังสามารถเดินทางมาจากจังหวัดใกล้เคียงอย่างง่ายดายไม่ว่าจะเป็นลำพูนหรือลำปาง เป็นต้น” นายเชียร์ทกล่าว
พรอมเมนาดา รีสอร์ทมอลล์ เชียงใหม่ เป็นช้อปปิ้งมอลล์ในสไตล์รีสอร์ท ด้วยคอนเซ็ปต์ “มากกว่าการช้อปปิ้ง” ที่ลงตัวด้วยความร่มรื่นด้วยสวนสวยและพื้นที่สีเขียวพร้อมแลนด์สเคปที่เหมาะเจาะ ตอบสนองความต้องการได้ทั้งในแง่ความสะดวกสบายในการจับจ่ายใช้สอยและความต้องการไลฟ์สไตล์ที่ใกล้ชิดธรรมชาติโดยยังคงความสนุกสนานมีสีสันในแบบของชีวิตคนเมือง โดยผู้เช่าหลักในกลุ่มซูเปอร์มาร์เก็ตคือ ริมปิง ซูเปอร์สโตร์ ซึ่งมีความโดดเด่น แตกต่าง ด้วยสินค้าที่มีให้เลือกหลากหลายจากทั่วทุกมุมโลกและยังมีความเป็นเอกลักษณ์ของเชียงใหม่ทั้งในแง่การตกแต่งและจัดวาง
นอกเหนือจาก ริมปิง ซูเปอร์สโตร์ แล้ว พรอมเมนาดา รีสอร์ทมอลล์ เชียงใหม่ ยังมีส่วนพื้นที่ร้านค้าปลีกและคีออสเก๋ รายล้อมตามทางเดินกว่า 350 ร้าน ด้วยสินค้าอันหลากหลาย ซึ่งรวบรวมไว้ทั้งแบรนด์ที่เป็นที่รู้จักระดับโลก และแบรนด์ระดับท้องถิ่นที่สร้างประสบการณ์แตกต่างในการจับจ่ายใช้สอยอย่างแท้จริง
“สิ่งที่พรอมเมนาดา รีสอร์ทมอลล์ เชียงใหม่ จะนำเสนอคือความแตกต่างในประสบการณ์การใช้ชีวิต ไม่เพียงแต่จะนำเสนอการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างความสงบรีแลกซ์ ใกล้ชิดธรรมชาติด้วยสวนสวยและบรรยากาศแบบรีสอร์ท และยังตกแต่งภายในอาคารที่สุดฮิป เปี่ยมด้วยสีสัน ความสนุกสนานเพลิดเพลิน แต่ยังเน้นความแตกต่างด้วยการเลือกร้านค้า” นายเชียร์ท กล่าว ความตั้งใจของเราคือต้องการจะเป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดกับทั้งผู้ประกอบการท้องถิ่นและผู้ประกอบการระดับประเทศ โดยเป็นศูนย์กลางที่ทำให้ผู้ประกอบการท้องถิ่นมีโอกาสที่จะแสดงให้คนภายนอกเห็นศักยภาพ เพื่อเติบโตไปพร้อมๆ กัน” นายเชียร์ทกล่าวต่อ “ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่เปลี่ยนไปอย่างมากในช่วงที่ผ่านมานี้ อีซีซีจึงต้องการตอบสนองการใช้ชีวิตที่ต่างไปนี้ด้วยการเปิดตัวพรอมเมนาดา รีสอร์ทมอลล์ เชียงใหม่ ที่ไม่เพียงเน้นสินค้าและแบรนด์ที่แตกต่างหลากหลายมีเอกลัษณ์เฉพาะตัว เพื่อให้ครอบคลุมความต้องการในทุกจังหวะชีวิตของลูกค้า แต่พรอมเมนาดาจะยังเป็นที่ที่คนสามารถแสดงออกถึงความต้องการความเป็นตัวตนหรือมาแสวงหาสถานที่ที่จะช่วยชาร์จแบตฯ สร้างความสดชื่นรื่นรมย์”
พรอมเมนาดา รีสอร์ทมอลล์ เชียงใหม่ ให้ความสำคัญกับการออกแบบที่ดึงธรรมชาติมาใกล้ชิดเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิต ลูกค้าสามารถช้อปปิ้งก่อนออกไปรีแลกซ์ท่ามกลางสวนสวยขนาดใหญ่หรือนั่งชิลบนเทอร์เรซริมน้ำ ซึ่งการออกแบบอาคารเองก็จะเน้นการผสานความเป็นท้องถิ่นเข้ากับความทันสมัยแบบตะวันตก เพื่อสร้างความผสมผสานอันลงตัวที่อบอุ่น เป็นกันเอง ใกล้ชิดธรรมชาติด้วยต้นไม้และพื้นที่สีเขียว แต่ยังคงไว้ซึ่งความทันสมัย มีสีสัน เปี่ยมด้วยชีวิตชีวาสไตล์คนเมือง เป็นการสร้างประสบการณ์การช้อปปิ้งและการใช้ชีวิตที่กลมกลืนและลงตัว”
พรอมเมนาดา รีอสอร์ทมอลล์ เชียงใหม่ จะเป็นอาคาร 3 ชั้น ด้วยขนาดพื้นที่ราว 92,000 ตร.ม. โดยชั้น 1 จะเป็นพื้นที่จอดรถที่กว้างขวาง สามารถรองรับรถได้ถึง 1,200 คันซึ่งสามารถขยายเพิ่มเติมได้ ส่วนชั้น 2-3 จะเป็นส่วนพื้นที่เช่าโดยมีพื้นที่เช่าสุทธิราว 52,000 ตร.ม. “ด้วยโลเกชั่นที่เป็นต่อ การเดินทางแสนสะดวกและประสบการณ์ในการช้อปปิ้งที่แตกต่าง ผมเชื่อมั่นว่าพรอมเมนาดา รีสอร์ทมอลล์ เชียงใหม่ จะได้รับการตอบรับที่ดีจากทั้งคนเชียงใหม่และจังหวัดใกล้เคียงมากพอกับจากนักท่องเที่ยวอย่างแน่นอน” นายเชียร์ทกล่าวสรุป ทั้งนี้ โครงการพรอมเมนาดา รีสอร์ทมอลล์ เชียงใหม่ คาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมเปิดภายในไตรมาส 2 ของปี 2555
Credit : Kenos ( Skyscrapercity )
Asiatique the Riverfront Community Mall Charoenkrung
ทีซีซีแลนด์"ทุ่ม2หมื่นล้านบุกไลฟ์สไตล์มอลล์
"ทีซีซี แลนด์" ธุรกิจอสังหาฯของเสี่ยเจริญ สิริวัฒนภักดี กางแผนลงทุน ปี"54-55 งัดแลนด์แบงก์ 72 ไร่ มูลค่า 6 พันล้านบาท ย่านเจริญกรุง ผุดไลฟ์สไตล์มอลล์แบรนด์ใหม่ "เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์" ควบขยายสาขา "ดิจิตอล เกตเวย์" บนที่เช่าย่านเอกมัย เบื้องต้นคาดต้องใช้งบฯลงทุนรวม 1-2 หมื่นล้านบาท ประเดิมตอกหมุดเฟสแรกโครงการโอเพ่นมอลล์ซอยเจริญกรุง 72-76 พื้นที่ 30,000 ตารางเมตร เตรียมเปิดบริการ ธ.ค.นี้
นายปณต สิริวัฒนภักดี รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส กลุ่มบริษัท ทีซีซี แลนด์ จำกัด ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์กลุ่มโครงการรีเทล (ค้าปลีก) และโรงแรมของตระกูลสิริวัฒนภักดี กล่าวว่า ช่วง 2 ปีนี้ (2554-2555) ทีซีซีแลนด์วางแผนพัฒนาโครงการรีเทลใหม่ 2 โปรเจ็กต์ ได้แก่ 1) โครงการ "เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์" โอเพ่นมอลล์บนที่ดินติดแม่น้ำเจ้าพระยาในย่านเจริญกรุง และ 2) โครงการดิจิตอล เกตเวย์ เอกมัย ศูนย์ขายสินค้าไอที ติดสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสเอกมัย
โดยหลังจากทั้ง 2 โครงการเปิดให้บริการ จะทำให้มีพื้นที่โครงการรีเทลในพอร์ตทั้งหมดเพิ่มขึ้นอีก 130,000 ตารางเมตร รวมเป็น 700,000 ตารางเมตร แบ่งเป็นโครงการเอเชียทีคฯ มีพื้นที่ 30,000 ตารางเมตร และโครงการดิจิตอล เกตเวย์ เอกมัย มีพื้นที่ 100,000 ตารางเมตร ทั้ง 2 โครงการกำหนดเปิดบริการภายเดือนธันวาคมนี้ และภายในไตรมาส 2 ปีหน้า ตามลำดับ
สำหรับโครงการเอเชียทีคฯ จะพัฒนาบนที่ดินติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา รวมเนื้อที่กว่า 72 ไร่ ในย่านถนนเจริญกรุง ซึ่งเป็นที่ดินเก่าที่ซื้อเก็บไว้นานแล้ว ตั้งอยู่ระหว่างซอยเจริญกรุง 72-76 มีหน้ากว้างติดแม่น้ำ 300 เมตร รูปแบบโครงการพัฒนาเป็นโอเพ่นมอลล์ หรือมอลล์เปิดโล่ง สไตล์โคโลเนียล (รัชกาลที่ 5) ภายใต้คอนเซ็ปต์ "เฟสติวัล มาร์เก็ต แอนด์ ลิฟวิ่ง มิวเซียม" (Festival Market and Living Museum) ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย
ในอนาคตเมื่อเปิดให้บริการ จะเป็นแหล่งรวมสินค้าและบริการหลากหลาย ได้แก่สินค้าตกแต่งบ้าน แฟชั่น เครื่องประดับ ร้านอาหาร แหล่งบันเทิง แผนพัฒนาจะมี 4 เฟส แบ่งที่ดินเฟสแรก จำนวน 28 ไร่ มาพัฒนาโครงการเอเชียทีคฯก่อน มีพื้นที่โครงการรวม 30,000 ตารางเมตร จำนวน 1,500 ร้านค้า พร้อมที่ดินจอดรถกว่า 2,000 คัน โดยใช้งบฯลงทุนเฉพาะค่าก่อสร้าง 1,000 ล้านบาท ไม่นับรวมมูลค่าที่ดินทั้งหมดกว่า 72 ไร่ อีกไม่ต่ำกว่า 6,000 ล้านบาท กำหนดเริ่มทยอยเปิดให้บริการได้ภายในเดือนธันวาคม 2554 ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 16.00-20.00 น.
"ที่ดินผืนนี้อยู่ในแหล่งประวัติเก่าแก่ โดยนักธุรกิจชาวเดนมาร์ก (มิสเตอร์ แอนเดอร์สัน) ได้เข้ามาก่อสร้างท่าเรือเอเชียทีคเพื่อขนส่งสินค้าตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 สภาพที่ดินมีสิ่งปลูกสร้างเป็นอาคารคลังสินค้าเก่าอยู่ เราจึงเลือกที่จะออกแบบโดยคงสภาพท่าเรือและสิ่งปลูกสร้างส่วนใหญ่ไว้ เพื่อผสมผสานกลิ่นอายความเป็นตะวันออกและตะวันตกเข้าด้วยกัน"
แนวคิดโครงการเอเชียทีคฯ แบ่งพื้นที่เป็น 4 ย่าน คือ 1) ย่านเจริญกรุง ประกอบด้วยร้านจำหน่ายของตกแต่งบ้าน ของที่ระลึกสำหรับนักท่องเที่ยว และร้านอาหารชั้นนำกว่า 700 ร้านค้า และโรงละครกว่า 400 ที่นั่ง สำหรับแสดงหุ่นละครเล็กโจหลุยส์ หรือโชว์คาลิปโซ่ คาบาเรต์
2) ย่านกลางเมือง เป็นพื้นที่จัดกิจกรรมกลางแจ้งกว่า 2,000 ตารางเมตร โซนอินเตอร์เนชั่นแนลฟู้ดเซอร์คัส รวบรวมร้านอาหารอร่อยจากทั่วโลก 3) ย่านโรงงาน เป็นแหล่งพบปะสังสรรค์ที่รวบรวมร้านอาหาร ผับ และร้านค้ามีสไตล์ สินค้าแฟชั่น ของประดับตกแต่งกว่า 1,000 ร้านค้า และ 4) ย่านริมน้ำ ประกอบด้วยร้านอาหารสไตล์เก๋ หลากหลายทั้งสไตล์ญี่ปุ่น อิตาเลียน ไทย จีน และซีฟู้ด
ความคืบหน้าโครงการ ปัจจุบันเริ่ม งานก่อสร้างแล้วกว่า 20-30% โดยในวันลอยกระทงปีนี้ บริษัทจะจัดอีเวนต์ล่องแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อประชาสัมพันธ์โครงการ ก่อนเปิดให้บริการภายในเดือนธันวาคมนี้ โดยจะเปิดบริการพื้นที่ "ย่านเจริญกรุง-ย่านริมน้ำ" ก่อน จากนั้นจะทยอยเปิดตัว "ย่านกลางเมือง-ย่านโรงงาน" ภายในมีนาคม 2555
ล่าสุดมีร้านค้าสนใจจองพื้นที่แล้ว กว่า 90% ร้านค้าเป็นขนาดมาตรฐานพื้นที่เฉลี่ย 5 ตารางเมตร คิดค่าเช่าเฉลี่ยตารางเมตรละ 1,000-2,000 บาท ระยะเวลาตามสัญญาเช่าตั้งแต่ 3-9 ปี โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายแรกเข้า แต่จะใช้วิธีเก็บค่ามัดจำเท่ากับอัตราค่าเช่า 4 เดือน กรณีย้ายออกจะคืนเงินส่วนนี้ให้กับร้านค้า
ลูกค้าเป้าหมายแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ 1) กลุ่มคนไทยที่ทำงานในละแวกนี้ อายุตั้งแต่ 25 ปีขึ้นไป มีรายได้ปานกลาง ต้องการสถานที่พบปะสังสรรค์ 2) กลุ่มนักท่องเที่ยวคนไทยและต่างชาติที่ต้องการแหล่งพักผ่อนที่ไม่ใช่ห้างสรรพสินค้า โดยก่อนหน้านี้ บริษัทได้สำรวจความต้องการกลุ่มลูกค้าผ่านบริษัททัวร์ และสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) ก็เห็นด้วยที่จะมีโครงการลักษณะนี้เกิดขึ้น โดยประมาณการว่าจะมีลูกค้าเฉลี่ยวันละ 15,000-20,000 ราย และจะสร้างรายได้จากค่าเช่าเฉลี่ยปีละ 300-400 ล้านบาท
นายณภัทร เจริญกุล ผู้อำนวยการโครงการเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ บริษัท ทีซีซี แลนด์ รีเทล จำกัด กล่าวเสริมว่า นโยบายการพัฒนาที่ดินเจริญกรุงกว่า 72 ไร่ ที่ผู้บริหารกลุ่มบริษัททีซีซีแลนด์วางไว้ จะแบ่งการพัฒนาเป็น 4 เฟส เฟสแรก เป็นโครงการโอเพ่นมอลล์ (เอเชียทีค) เฟส 2 น่าจะเป็นโครงการมอลล์ เบื้องต้นกำหนดว่าจะต้องมีคอนเซ็ปต์ต่างจากเฟสแรก อาคารอเนกประสงค์ และอาจจะมีโรงแรม ซึ่งอาจจะเริ่มได้ภายในปี 2556
เฟส 3 น่าจะเป็นแหล่งดึงดูนักท่องเที่ยว (Tourist attraction) เช่น จุดชมวิว เป็นต้น และเฟสสุดท้าย จะเป็นโรงแรม โดยในมาสเตอร์แปลนที่ดินกว่า 72 ไร่ เบื้องต้นกำหนดว่าน่าจะต้องมีโรงแรมอย่างน้อย 2 อาคาร เบ็ดเสร็จคาดว่าจะใช้เงินพัฒนารวมทั้งหมด 10,000-20,000 ล้านบาท และใช้เวลาพัฒนารวม 10-15 ปี
Credit : Napoleon,Jarcje ( Skyscrapercity )
: ประชาชาติธุรกิจ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)